วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

                                     ความประทับใจที่ได้ไปดูงานที่จังหวัดสุริทร์


                  ผมในฐานะนักศึกษาคนหนึ่งที่ได้ไปดูงานในครั้งนี้รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากเพราะรู้สึกว่าได้อะไรกลับมาหลายอย่าง เช่น จากเพื่อนในห้องที่ไม่ค่อยได้คุยกันก็ได้คุยกันมากขึ้นไ้ด้สนุกผ่อนคลายจากที่เรียนมาหนักได้ไปพักผ่อนให้สบายใจเพื่อกลับมาเตรียมตัวสอบและได้รับความรู้เพิ่มเติมในส่อนที่ได้ไปศึกษาเพราะปราชญ์ชาวบ้านแต่ล่ะท่านมีความรู้ความสามารถที่ได้รับการยกย่องทั้งนั้นท่านสามารถที่จะทำได้จริง และท่านที่ผมชื่นชอบคงเป็น พ่อสุวรรณ กันภัย ผมว่าท่านนี่สุดยอดมากอยู่ได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงโดยแท้เพราะว่าทุกอย่างในบ้านของท่านสามารถนำมาทำอาหารได้หมดใช้เพื่อการดำรงชีวิตอยู่ ซื้อแค่ของบางอย่างที่ไม่สามารถผลิตเองได้เท่านั้นและท่านยังอยู่โดยไม่ใช้ไฟฟ้าอีกด้วยผมว่าท่านสมเป็นสุดยอดปราชญ์โดยแท้ และท่านที่เหลืออีกหลายท่านแต่ล่ะท่านก็มีความสามารถแตกต่างกันไปซึ่งผมว่าเป็๋นสิ่งที่ดีนะที่ได้ไปดูงานในครั้งนี้หากมีครั้งต่อไปก็คงอยากไปอีก แต่ขอไปกับ อ.วันทนีคนเดิมนะดีแล้ว ดูดุๆหน่อยแต่พอเอาเข้าจริงใจดีเหมื่อนกันนะเนี้ย 

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

สุรินทร์ ศึกษาดูงานสุรินทร์
 

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 ถึงวันที่13  กุมภาพันธ์ 2554
          
          การดูงาน  ที่สุรินทร์ได้ข้อคิดแล้วความรู้หลากหลาย เช่น การปลุกพืชหมุนเวียน การ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง การอยู่อย่างรู้จักพอและอีกหลายอย่างซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายและเป็นสิ่งที่สามารถนำมาไว้เพื่อถ่ายทอดให้ผู้อื่นรับรู้ได้


 

พ่อ คำเดื่อง ภาษี

พ่อสุวรรณ กันภัย (สงสัยเป็นญาติอาจารย์์หนูป่าว)


คุณ กัญญา อ่อนศรี


สัมมนา..การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

แนวโน้มของผู้สูงอายุ
    -ผู้สูงอายุอาศัยอยู่โดยลำพัง
     -ผู้สูงอายูอาศัยอยุกับสมาชิกในครอบครัวและทำ งานนอกบ้าน
     -คนวัยกลางคนและหญิงสูงอายุต้องรับภาระในการ ดูแลผู้สูงอายุ
     -ครอบครัวไม่สามารถรับภาระได้เกินอาชีพผู้ ช่วยดูแล

การเตรียมตัวเข้าสู่วัยสุงอายุ
      การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรม ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แม้แต่คนเดียว แตกต่างตรงสาเหตุและเวลาเท่านั้น และไม่มีผู้ใดล่วงรู้ และกำหนดเวลาเกิด แก่ เจ็บ ตาย ของตนเองได้ จึงเป็นอนิจจัง ผู้สูงอายุส่วนไทยส่วนใหญ่ จะมีบุตร หลาน คอยดูแล เพราะหน่วยงานเพื่อการสงเคราะห์ผู้สูงอายุนั้น มีจำนวนน้อย ไม่สมดุลกับจำนวนผู้สูงอายุทั่วประเทศ แต่รัฐก็ไม่ได้ทอดทิ้ง ได้มองเห็นสำคัญ และปัญหาของผู้สูงอายุ ซึ่งนับวันก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ 
      สังคมไทยยกย่องบุคคลที่มีความกตัญญู การเลี้ยงดูบุพการี เป็นสิริมงคล อันทุกคนควรปฏิบัติ จึงทำให้ผู้สูงอายุในประเทศไทยใช้ชีวิตในบั้นปลายอยู่ร่วมกับบุตรหลาน ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ที่ต่างก็ได้เรียนรู้และปรับตัวให้อยู่ด้วยกันได้ ้โดยมีปัญหาน้อยที่สุด  ผู้สูงอายุที่อยู่กับบุตรหลานตลอดก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก แต่ผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง เพราะบุตรหลานแยกครอบครัวออกไป หากต้องกลับไปอยู่กับบุตรหลานในบั้นปลายชีวิต จะต้องปรับตัวเองอย่างมากกับการผจญกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ หลายประการ เช่น สถานที่ ระเบียบวินัย จำทำให้เกิดปัญหาแก่ผู้สูงอายุ ไม่มากก็น้อยแน่นอน
สิ่งที่ผู้สูงอายุควรปฏิบัติด้วยตนเอง ได้แก่

1.การเตรียมทางด้านร่างกาย
2.การเตรียมทางด้านจิตใจ
3.การเตรียมทางด้านสังคม











วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

ประกาศรับสมัครงาน จาก (ศูนย์บำบัดรักษายาเสพติด)
                           
                        รายได้เริ่มต้นที่ 15,000

รับสมัครตำแหน่ง

                        1. นักจิตวิทยาคลินิก
                        2. วิทยากร (ด้านยาเสพติด)
คุณสมบัติ

                        มีความรู้ความสามารถ มีความสามารถในด้านจิตวิทยาที่ดี สามารถออกต่างจังหวัดได้
                        มีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 1 ปี

เพศ
                        ชาย/หญิง

ระดับวุฒิการศึกษา

                        ระดับ วุฒิปริญญาตรี สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์  และ หากมีประสบการณ์
                        จะพิจารณาเป็นพิเศษ

สนใจติดต่อ

                        081-54213219 หรือ 02-215489 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.30

                    

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

        ทุกวันนี้จะสังเกตได้ว่าแทบทุกครั้งที่ได้ดูข่าวทางโทรทัศน์นั้นจะมีข่าวเกี่ยวกับการจับกุมยาเสพติดแทบ ทุกครั้งนี่อาจเป็นเพราะประเทศไทยในตอนนี้มีผู้ที่ติดชายเสพติดอยู่เป็นจำนวนมากแล้วก็เป็นได้ และในทุกวันนี้เยาวชนไทยจำนวนไม่ได้ที่ติดยายิ่งนับวันยิ่งมีผู้เสพยาอายุน้อยลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นพ่อแม่และผู้ปกครองควรที่จะสอดส่องดูแลลูกหลานของตนเอง ให้ความรักและความอบอุ่น
       
         ปัจจุบัน มีผู้ติดยาเสพติดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนจะติดยาเสพติดมากกว่ากลุ่มคนกลุ่มอื่น และที่น่าเป็นห่วงกำลังแพร่ระบาดสู่เด็กนักเรียนวัย 9 ขวบ 10 ขวบ สาเหตุอาจเป็นเพราะถูกเพื่อนชักจูงให้ลองเสพ อยากรู้ อยากลอง ถูกล่อลวง และสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือการขาดความอบอุ่นในครอบครัว ปัญหาพ่อแม่หย่าร้างกัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจดูแลหรือเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เด็กเกิดความว้าเหว่ไม่รู้จะปรึกษาใคร เลยหันไปหายาเสพติด หรือเป็นเป้าล่อให้กับผู้ไม่ปรารถนาดีอย่างพอดีปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ ปันทอนความเจริญของประเทศชาติ หากประเทศใดมีประชาชนติดยาเสพติดจำนวนมาก ก็ไม่สามารถพัฒนาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองได้
          ยาเสพติดมีมากมายหลายชนิด ได้แก่ ฝิ่น เฮโรอีน ทินเนอร์ กัญชา ยาบ้า ยาอี สาระเหย กระท่อม และยากระตุ้นประสาทเป็นต้น แต่ละชนิดก่อให้เกิดผลร้ายแก่ร่างกายทั้งสิ้น ทำให้สุขภาพทรุดโทรมอ่อนแอ ความจำเสื่อม เสียบุคลิกภาพ และปัญหาสำคัญที่ตามมาอีกประการหนึ่ง ก็คือผู้ติดยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเอดส์และแพร่กระจายไปยังกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดด้วยกัน รวมไปถึงคนกลุ่มอื่น ๆ ด้วย

           แม้รัฐบาลจะประกาศสงครามกับยาเสพติดก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าการป้องกัน การปราบปรามยาเสพติดจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกัน   
      
        การปราบปรามเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การป้องกันยังเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยการให้การศึกษาและความรู้เรื่องพิษภัยและโทษของยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง แก่ประชาชน ครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง จะต้องเอาใจใส่ดูแลลูกหลาน ให้ความรักความอบอุ่นแก่ครอบครัว เป็นที่พึ่งของเด็กได้ เมื่อเด็กมีปัญหาสามารถจะพูดคุย ช่วยกันแก้ปัญหาให้เด็กใช้เหตุผลกับเด็ก ไม่ใช้อารมณ์ เพราะการใช้อารมณ์อาจทำให้เด็กเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ กลุ้มใจและเตลิดออกจากบ้านไปพึ่งยาเสพติดและเสียอนาคตได้ในที่สุด
"เยาวชนคืออนาคตของชาติ อย่าให้ตกเป็นทาสของยาเสพติด"




<>
 

       
           

          
           

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

ยาบ้า เป็นชื่อที่ใช้เรียกยาเสพติดที่มีส่วนผสมของสารเคมีประเภท แอมเฟตามีน (Amphetamine) สารประเภทนี้แพร่ระบาดอยู่ 3 รูปแบบ ด้วยกัน คือ แอมเฟตามีนซัลเฟต (Amphetamine Sulfate) เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) และเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ (Methamphetmine Hydrochloride) ซึ่งจากผลการตรวจพิสูจน์ยาบ้าปัจจุบัน ที่พบอยู่ในประเทศไทยมักพบว่า เกือบทั้งหมดมีเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ผสมอยู่

ยาบ้า จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท มีลักษณะเป็นยาเม็ดกลมแบนขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6-8 มิลลิเมตร ความหนาประมาณ 3 มิลลิเมตร น้ำหนักเม็ดยาประมาณ 80-100 มิลลิกรัม มีสีต่างๆ กัน เช่น สีส้ม สีน้ำตาล สีม่วง สีชมพู สีเทา สีเหลืองและสีเขียว มีสัญลักษณ์ ที่ปรากฏบนเม็ดยา เช่น ฬ, m, M, RG, WY สัญลักษณ์รูปดาว, รูปพระจันทร์เสี้ยว, 99 หรืออาจเป็นลักษณะของเส้นแบ่งครึ่งเม็ด ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ อาจปรากฏบนเม็ดยาด้านใดด้านหนึ่ง หรือทั้งสองด้าน หรืออาจเป็นเม็ดเรียบทั้งสองด้านก็ได้

วิธีการเสพ :

วิธีการเสพยาบ้าทำได้หลายวิธี เช่น รับประทาน หรือนำไปผสมลงใน เครื่องดื่มครั้งละ 1/4, 1/2 หรือ 1-2 เม็ด หรือบางครั้งอาจใช้วิธีฉีดเข้าเส้น แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยม วิธีที่นิยมมากที่สุด ได้แก่ วิธีสูบ หมายถึง การใช้หลอดสูบเอาควันที่ได้จากการเผาไหม้เม็ดยาเข้าทางปากคล้ายกับการสูบบุหรี่ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่มีอันตรายต่อร่างกายอย่างยิ่ง เพราะตัวยาจะออกฤทธิ์ต่อร่างกายอย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่าวิธีการเสพในรูปแบบอื่น

ฤทธิ์ในทางเสพติด :

ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท มีอาการเสพติดทางร่างกายและจิตใจ ไม่มีอาการขาดยาทางร่างกาย

อาการผู้เสพ :

เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายในระยะแรกจะออกฤทธิ์ทำให้ร่างกายตื่นตัว หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง ใจสั่น ประสาทตึงเครียด แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาจะรู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าปกติ ประสาทล้า ทำให้การตัดสินใจช้าและผิดพลาดเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ถ้าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้สมองเสื่อม เกิดอาการประสาทหลอน เห็นภาพลวงตา หวาดระแวง คลุ้มคลั่ง เสียสติ เป็นบ้าอาจทำร้ายตนเองและผู้อื่นได้ หรือในกรณีที่ได้รับยาในปริมาณมาก (Overdose) จะไปกดประสาท และระบบการหายใจ ทำให้หมดสติ และถึงแก่ความตายได้

โทษที่ได้รับ :

การเสพยาบ้าก่อให้เกิดผลร้ายหลายประการ ดังนี้

1.  ผลต่อจิตใจ เมื่อเสพยาบ้าเป็นระยะเวลานานหรือใช้เป็นจำนวนมาก จะทำให้ผู้เสพมีความผิดปกติทางด้านจิตใจ กลายเป็นโรคจิตชนิดหวาดระแวง ส่งผลให้มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป เช่น เกิดอาการหวาดกลัว ประสาทหลอนซึ่งโรคนี้หากเกิดขึ้นแล้ว อาการจะคงอยู่ตลอดไป แม้ในช่วงเวลาที่ไม่ได้เสพยาก็ตาม

2.  ผลต่อระบบประสาท ในระยะแรกจะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำให้ประสาทตึงเครียด แต่เมื่อหมดฤทธิ์ยาจะมีอาการประสาทล้า ทำให้การตัดสินใจเรื่องต่างๆ ช้า และผิดพลาดหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้สมองเสื่อม หรือกรณีที่ใช้ยาในปริมาณมาก (Overdose) จะไปกดประสาทและระบบการหายใจ ทำให้หมดสติและถึงแก่ความตายได้

3.  ผลต่อพฤติกรรม ฤทธิ์ของยาจะกระตุ้นสมองส่วนที่ควบคุมความก้าวร้าวและความกระวนกระวายใจ ดังนั้น เมื่อเสพยาบ้าไปนานๆ จะก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป คือ ผู้เสพจะมีความก้าวร้าวเพิ่มขึ้นและหากยังใช้ต่อไปจะมีโอกาสเป็นโรคจิตชนิดหวาดระแวง เกรงว่าจะมีคนมาทำร้ายตนเองจึงต้องทำร้ายผู้อื่นก่อน

โทษทางกฎหมาย :

จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522


ยาบ้ากับเรื่องเพศ

ยาบ้ามีผลต่อสมองส่วนที่ควบคุมพฤติกรรมทางเพศ และความพึงพอใจทางเพศ โดยระยะเริ่มแรกของการใช้ยาจะมีลักษณะที่จูงใจให้มีการใช้ยา ดังนี้

- ช่วยให้ผู้เสพกล้าพบประผู้คนมากขึ้น
- ทำให้กล้าทำในสิ่งที่เคยไม่กล้าหรือเคยรู้สึกไม่สมควร
- เพิ่มความพึงพอใจทางเพศ
- ยืดระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์
- เพิ่มความตื่นเต้นในการมีเพศสัมพันธ์

ประสบการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้ในคนที่เริ่มเสพยา แต่เมื่อเสพจนเป็นนิสัย ความรู้สึกพึงพอใจที่มีจะค่อยๆ ลดน้อยลง และติดตามมาด้วยภาวะเสพติดอย่างง่ายดาย ซึ่งในระยะนี้เรื่องเพศจะกลับกลายเป็นปัญหาวิกฤต คือ
 

            - ระยะเวลาในการมีเพศสัมพันธ์นานขึ้น อารมณ์ทางเพศลดน้อยลงเมื่อเทียบกับประสบการณ์ในครั้งก่อนๆ
- มีความคิดผิดปกติต่อการมีเพศสัมพันธ์ร่วมกับการใช้ยาเสพติด เช่น คิดว่า เป็นสิ่งน่าตื่นเต้นเกินกว่าความเป็นจริง มีเพศสัมพันธ์ในรูปแบบแปลกๆ และบางครั้งกลายเป็นปัญหารุนแรงต่อตนเองและผู้อื่น
- การบรรลุถึงจุดสุดยอดในการมีเพศสัมพันธ์เป็นไปได้ยากขึ้น
- สูญเสียสมรรถภาพทางเพศ
- เสพยาทดแทนการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากการหมกมุ่นในยาเสพติดมากกว่า


ดังนั้น  ความเชื่อที่ว่ายาบ้าสามารถช่วยเพิ่มพลังทางเพศได้ จึงเป็นความเชื่อที่ผิดและเป็นเพียงภาพลวงตาในระยะแรกของการเสพเท่านั้น